Honda Legend สร้างมิติใหม่ด้านแรงม้าของรถญี่ปุ่น
หน้า 1 จาก 1
Honda Legend สร้างมิติใหม่ด้านแรงม้าของรถญี่ปุ่น
ฮอนดา เลเจนด์
สร้างมิติใหม่ด้านแรงม้าของรถญี่ปุ่น
ฮอนดา เลเจนด์ สร้างมิติใหม่ด้านแรงม้าของรถญี่ปุ่น ปิด "ระเบียงรถใหม่" ในเดือนที่คนไทย "กำลังจะได้" หรือ "ได้" รัฐบาลชุดใหม่ไปเรียบ ร้อยแล้ว ด้วยรถธงคันใหม่ ในสายการผลิตของ ฮอนดา มอเตอร์ (HONDA MOTOR) แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่คงกำลังปวดหัวกับปัญหา "ทุบรถ" ของสาขาในประเทศไทย คนรักรถในบ้านเราคงคุ้นเคยกันดีกับชื่อ ฮอนดา เลเจนด์ (HONDA LEGEND) รถ ยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่สุดและหรูที่สุดของค่าย ฮอนดา ยักษ์รองของเมืองยุ่นนำรถอนุกรม นี้ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 1990 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้วรวมสองครั้ง รถรุ่นใหม่ล่าสุดที่เริ่มจำหน่ายในตลาดเมืองปลาดิบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา จึง นับได้ว่าเป็นรถรุ่นที่สี่ วิจารณ์กันในญี่ปุ่นว่า ทีมงานของ ฮอนดา ประสบความสำเร็จและทำได้ดีเกินคาดกับ รถรุ่นนี้ เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ของรถขับล้อหน้าระดับหรูที่ค่อนข้างจะ อนุรักษ์นิยม ให้กลายเป็นรถเก๋งสปอร์ทรูปทรงปราดเปรียว บังคับขับขี่ได้ดังใจด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ก้าวล้ำนำสมัย เป็นรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่หัวจรดหาง ตัวถังทรงสามกล่อง ยาว 4.930 ม. กว้าง 1.845 ม. และสูง 1.455 ม. วางตัวอยู่บนพแลทฟอร์มที่ออกแบบขึ้นใหม่ และมีช่วงฐานล้อยาว 2.800 ม. ชิ้นส่วนตัวถังทำจาก แผ่นเหล็กกล้า แมกนีเซียม อลูมิเนียม คาร์บอน-ไฟเบอร์ และวัสดุมวลเบาอีกหลายชนิด ผลลัพธ์ คือตัวถังที่เบา แต่แข็งแรงกว่ารถรุ่นก่อนๆ ทุกรุ่น เครื่องยนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ยังคงเป็นเครื่อง วี 6 สูบ 3.5 ลิตร เหมือนรถรุ่นก่อน แต่ที่เปลี่ยนไปและถือได้ว่าเป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ แก่อุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่น คือ กำลังสูงสุด ซึ่งมีหน่วยเป็นแรงม้า นับแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ยึดถือเป็นข้อตกลงโดยความสมัครใจ ในบรรดาผู้ผลิตรถ ยนต์ญี่ปุ่นทุกราย ว่าจะไม่ระบุค่ากำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ สูงกว่า 280 แรงม้า ทั้ง นี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และป้องกันการแข่งขัน ซึ่งเชื่อกันในตอนนั้นว่า ไม่น่า จะเป็นผลดีต่อทุกๆ ฝ่าย วันเวลาเปลี่ยนไป สภาพการณ์เปลี่ยนไป และตลาดรถยนต์ก็เปลี่ยนไป ที่สุด ผู้ผลิต รถยนต์เมืองยุ่นก็เห็นว่า เรื่องนี้หมดความจำเป็นแล้ว และ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่ง ประเทศญี่ปุ่น หรือ JAPAN AUTOMOBILE MANUFACTURERS ASSOCIATION ซึ่ง เรียกกันโดยย่อว่า JAMA ก็ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้ต่อทางการของญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อ วันที่ 30 มิถุนายน 2004 และเป็นสัญญาณว่า การแข่งขันด้านแรงม้ากำลังจะเริ่มขึ้น ฮอนดา กลายเป็นผู้ผลิตรยนต์ถญี่ปุ่นรายแรกในรอบ 16 ปี ที่เริ่มต้นการแข่งขันนี้ โดย ระบุว่า เครื่องยนต์ SOHC VTEC วี 6 สูบ 24 วาล์ว 3,471 ซีซี (รหัสเครื่องยนต์ J35A) ที่ติดตั้งในรถ ฮอนดา เลเจนด์ รุ่นล่าสุดนี้ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 36.0 กก.-ม.ที่ 5,000 รตน. นอกจากแรงม้าของเครื่องยนต์ที่ว่านี่แล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องกล่าวถึง เมื่อพูดถึงรถ ฮอนดา เลเจนด์ รุ่นใหม่ คือระบบขับสี่ล้อ ที่ออกแบบขึ้นใหม่ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำ ให้รถ ฮอนดา เลเจนด์ รุ่นนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น CAR OF THE YEAR หรือ "รถแห่งปีของญี่ปุ่น" คันล่าสุด ฮอนดา ตั้งชื่อระบบขับสี่ล้อนี้ว่า SUPER HANDLING ALL-WHEEL DRIVE เป็นระบบ ขับสี่ล้อที่ใช้ดิฟเฟอเรนเชียลท้ายแบบ TWIN MULTIPLATE CLUTCHES กระจายแรง บิดไปยังล้อคู่หน้าและหลัง ตั้งแต่ 30/70 จนถึง 70/30 ในขณะเดียวกัน ก็สามารถ กระจายแรงบิดในล้อคู่หลังแต่ละล้อ ได้ตั้งแต่ 0 ไปจนถึง 100 แถมในขณะที่รถเลี้ยว โค้ง ระบบนี้ก็ยังฉลาดเฉลียวถึงขนาดสามารถเพิ่มความเร็วของล้อหลังด้านนอก อย่าง มีสัมพันธ์กับล้อหน้าทั้งคู่อีกต่างหาก
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ที่มา http://www.autoinfo.co.th/page/th/article_event/detail.php?id=7984
สร้างมิติใหม่ด้านแรงม้าของรถญี่ปุ่น
ฮอนดา เลเจนด์ สร้างมิติใหม่ด้านแรงม้าของรถญี่ปุ่น ปิด "ระเบียงรถใหม่" ในเดือนที่คนไทย "กำลังจะได้" หรือ "ได้" รัฐบาลชุดใหม่ไปเรียบ ร้อยแล้ว ด้วยรถธงคันใหม่ ในสายการผลิตของ ฮอนดา มอเตอร์ (HONDA MOTOR) แห่งประเทศญี่ปุ่น ที่คงกำลังปวดหัวกับปัญหา "ทุบรถ" ของสาขาในประเทศไทย คนรักรถในบ้านเราคงคุ้นเคยกันดีกับชื่อ ฮอนดา เลเจนด์ (HONDA LEGEND) รถ ยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่สุดและหรูที่สุดของค่าย ฮอนดา ยักษ์รองของเมืองยุ่นนำรถอนุกรม นี้ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 1990 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้วรวมสองครั้ง รถรุ่นใหม่ล่าสุดที่เริ่มจำหน่ายในตลาดเมืองปลาดิบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา จึง นับได้ว่าเป็นรถรุ่นที่สี่ วิจารณ์กันในญี่ปุ่นว่า ทีมงานของ ฮอนดา ประสบความสำเร็จและทำได้ดีเกินคาดกับ รถรุ่นนี้ เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ของรถขับล้อหน้าระดับหรูที่ค่อนข้างจะ อนุรักษ์นิยม ให้กลายเป็นรถเก๋งสปอร์ทรูปทรงปราดเปรียว บังคับขับขี่ได้ดังใจด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ก้าวล้ำนำสมัย เป็นรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่หัวจรดหาง ตัวถังทรงสามกล่อง ยาว 4.930 ม. กว้าง 1.845 ม. และสูง 1.455 ม. วางตัวอยู่บนพแลทฟอร์มที่ออกแบบขึ้นใหม่ และมีช่วงฐานล้อยาว 2.800 ม. ชิ้นส่วนตัวถังทำจาก แผ่นเหล็กกล้า แมกนีเซียม อลูมิเนียม คาร์บอน-ไฟเบอร์ และวัสดุมวลเบาอีกหลายชนิด ผลลัพธ์ คือตัวถังที่เบา แต่แข็งแรงกว่ารถรุ่นก่อนๆ ทุกรุ่น เครื่องยนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ยังคงเป็นเครื่อง วี 6 สูบ 3.5 ลิตร เหมือนรถรุ่นก่อน แต่ที่เปลี่ยนไปและถือได้ว่าเป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ แก่อุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่น คือ กำลังสูงสุด ซึ่งมีหน่วยเป็นแรงม้า นับแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ยึดถือเป็นข้อตกลงโดยความสมัครใจ ในบรรดาผู้ผลิตรถ ยนต์ญี่ปุ่นทุกราย ว่าจะไม่ระบุค่ากำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ สูงกว่า 280 แรงม้า ทั้ง นี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และป้องกันการแข่งขัน ซึ่งเชื่อกันในตอนนั้นว่า ไม่น่า จะเป็นผลดีต่อทุกๆ ฝ่าย วันเวลาเปลี่ยนไป สภาพการณ์เปลี่ยนไป และตลาดรถยนต์ก็เปลี่ยนไป ที่สุด ผู้ผลิต รถยนต์เมืองยุ่นก็เห็นว่า เรื่องนี้หมดความจำเป็นแล้ว และ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่ง ประเทศญี่ปุ่น หรือ JAPAN AUTOMOBILE MANUFACTURERS ASSOCIATION ซึ่ง เรียกกันโดยย่อว่า JAMA ก็ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนี้ต่อทางการของญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อ วันที่ 30 มิถุนายน 2004 และเป็นสัญญาณว่า การแข่งขันด้านแรงม้ากำลังจะเริ่มขึ้น ฮอนดา กลายเป็นผู้ผลิตรยนต์ถญี่ปุ่นรายแรกในรอบ 16 ปี ที่เริ่มต้นการแข่งขันนี้ โดย ระบุว่า เครื่องยนต์ SOHC VTEC วี 6 สูบ 24 วาล์ว 3,471 ซีซี (รหัสเครื่องยนต์ J35A) ที่ติดตั้งในรถ ฮอนดา เลเจนด์ รุ่นล่าสุดนี้ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 6,200 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 36.0 กก.-ม.ที่ 5,000 รตน. นอกจากแรงม้าของเครื่องยนต์ที่ว่านี่แล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องกล่าวถึง เมื่อพูดถึงรถ ฮอนดา เลเจนด์ รุ่นใหม่ คือระบบขับสี่ล้อ ที่ออกแบบขึ้นใหม่ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำ ให้รถ ฮอนดา เลเจนด์ รุ่นนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น CAR OF THE YEAR หรือ "รถแห่งปีของญี่ปุ่น" คันล่าสุด ฮอนดา ตั้งชื่อระบบขับสี่ล้อนี้ว่า SUPER HANDLING ALL-WHEEL DRIVE เป็นระบบ ขับสี่ล้อที่ใช้ดิฟเฟอเรนเชียลท้ายแบบ TWIN MULTIPLATE CLUTCHES กระจายแรง บิดไปยังล้อคู่หน้าและหลัง ตั้งแต่ 30/70 จนถึง 70/30 ในขณะเดียวกัน ก็สามารถ กระจายแรงบิดในล้อคู่หลังแต่ละล้อ ได้ตั้งแต่ 0 ไปจนถึง 100 แถมในขณะที่รถเลี้ยว โค้ง ระบบนี้ก็ยังฉลาดเฉลียวถึงขนาดสามารถเพิ่มความเร็วของล้อหลังด้านนอก อย่าง มีสัมพันธ์กับล้อหน้าทั้งคู่อีกต่างหาก
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ที่มา http://www.autoinfo.co.th/page/th/article_event/detail.php?id=7984
Similar topics
» HONDA เตรียมฆ่า LEGEND และ ELYSION ทิ้ง!
» Facebook Legend มีแล้วน่ะครับ
» Donation Rally Legend Thailand
» Facebook Legend มีแล้วน่ะครับ
» Donation Rally Legend Thailand
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|